วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2560

สัปดาห์ที่ 4 : กรณีศึกษาการกระทำความผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ [อา. 26 ก.พ. 60]

กรณีศึกษาการกระทำความผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์


มาช่าขอโทษ ภาพหลุด เตรียมเอาผิดมือดีปล่อยภาพหลุด


เนื้อหาข่าว
            มาช่า แถลงขอโทษมีภาพหลุดอื้อฉาวกับผู้ชาย เผย หลุดจากโทรศัพท์ที่ทำหาย ปัดพูดถึงผู้ชายในภาพ แต่แจ้งความเอาผิดคนปล่อยแล้ว หวังเป็นเรื่องซวยเรื่องสุดท้ายของชีวิต พร้อมวอนขอให้หยุดเผยแพร่ภาพ ด้านหมวดเจี๊ยบผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย เกาะกระแสโผล่มอบดอกไม้ให้กำลังใจ หลังจากที่เมื่อหลายวันก่อน หนังสือพิมพ์สยามดาราได้นำเสนอข่าวภาพหลุดสาวหน้าคล้าย นักร้องชื่อดัง มาช่า วัฒนพานิชกำลังบรรเลงเลิฟซีนกับผู้ชายที่ระบุว่าหน้าคล้าย นายซีริล รูฮานี (Cyril Rouhani)” อดีตโปรดิวเซอร์ชาวฝรั่งเศสคู่กรณี ที่เคยร่วมกันทำงานเพลง I’m Back และตอนนี้กำลังมีเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ หลุดออกมาทำเอาช็อคกันทั้งวงการบันเทิงซึ่งหลังจากที่นักร้องดังมาช่าเอาแต่หลบหน้าสื่อ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดในวันนี้ (25 มิ.ย.) เวลา 17.00 น. เจ้าตัวก็ได้ออกมาแถลงข่าวด้วยตัวเอง กลางกองละครเรื่อง ลิขิต เสน่หาออกอากาศทางช่อง 3 ที่ รพ. เกษมราษฏร์ บางแค พร้อมกับยอมรับว่าเป็นสาวที่อยู่ในภาพอื้อฉาวนั้นจริง เผย เป็นภาพที่อยู่ในโทรศัพท์ที่ทำหาย แต่ปฏิเสธที่จะพูดถึงผู้ชายในภาพ ก่อนจะเอ่ยขอโทษแฟน ๆ ที่มีภาพทำนองนี้หลุดออกมา
            “เรื่องรูปที่แพร่ออกไปมันเป็นความผิด และสามารถดำเนินคดีได้ ช่าขอร้องอย่าเผยแพร่รูปออกไป  มีคนกลั่นแกล้งก็ต้องต่อสู้กันไป กับคนที่เชื่อว่าปล่อยรูปตั้งแต่มีคดีความ ก็ไม่ได้ติดต่อกันไม่ได้พูดคุย คงปล่อยให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องคนนั้นที่มีคดีติดตัวที่ต่างประเทศ ก็คิดว่าคนดีๆ ก็คงไม่ทำเรื่องแบบนั้น อยากให้เป็นคดีตัวอย่าง บางครั้งเราคิดกับเขาในแง่ดีเกินไป

บทลงโทษ
            มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๑) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔)
มาตรา ๑๕  ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มี การกระทําความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิดตาม มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่ง เป็นการนําเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทําไม่มีความผิดความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย


ที่มาของข่าวhttp://www.learners.in.th/blogs/posts/480911

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สัปดาห์ที่ 3 : รู้จักกับ "อุปกรณ์การประมวลผลของคอมพิวเตอร์" และ "โครงสร้างหน่วยงานคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร" [อา. 19 ก.พ. 60]

อุปกรณ์ประมวลผลของคอมพิวเตอร์
(Processing Device)



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ processing devices of computer


              ซีพียู (CPU-Central Processing Unit) หน่วยประมวลผลกลางหรือซีพียู เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โปรเซสเซอร์ (Processor) หรือ ชิป (Chip) นับเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะมีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามาทางอุปกรณ์นำเข้าข้อมูลตามชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ผู้ใช้ต้องการใช้งาน หน่วยประมวลผลกลาง


ที่มา : https://simple.wikipedia.org/wiki/Central_processing_unit#/media/File:COAST_CPU.jpg

(1) CPU, (2) Tag RAM และ (3) slot for COAST module


                 หน่วยความจำหลัก (Main Memory) หรือเรียกว่า หน่วยความจำภายใน (Internal Memory) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
                        - รอม (Read Only Memory – ROM) เป็นหน่วยความจำที่มีโปรแกรมหรือข้อมูลอยู่แล้ว สามารถเรียกออกมาใช้งานได้แต่จะไม่สามารถเขียนเพิ่มเติมได้ และแม้ว่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงให้แก่ระบบข้อมูลก็ไม่สูญหายไป

                        – แรม (Random Access Memory) เป็นหน่วยความจำที่สามารถเก็บข้อมูลได้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเท่านั้น เมื่อใดไม่มีกระแสไฟฟ้ามาเลี้ยงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำชนิดนี้จะหายไปทันที



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ main memory
ที่มา : http://preaw0302.wixsite.com/computer/about1-c4mv



               เมนบอร์ด (Main board) เป็นแผงวงจรต่อเชื่อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของพีซีทุกเครื่อง เพราะจะบอกความสามารถของเครื่องว่าจะใช้ซีพียูอะไรได้บ้าง มีประสิทธิภาพเพียงใด สามารถรองรับกับอุปกรณ์ใหม่ได้หรือไม่\


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ mainboard

ที่มา : http://km.chpc.ac.th/external_links.php?links=457




               ซิปเซ็ต (Chip Set) ซิปเซ็ตเป็นชิปจำนวนหนึ่งหรือหลายตัวที่บรรจุวงจรสำคัญๆ ที่ช่วยการทำงานของซีพียู และติดตั้งตายตัวบนเมนบอร์ดถอดเปลี่ยนไม่ได้ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานและควบคุมการทำงานของหน่วยความจำรวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างทั้งแบบภายในหรือภายนอกทุกชนิดตามคำสั่งของซีพียู เช่น SiS, Intel, VIA, AMD เป็นต้น




ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ chip set
ที่มา : http://www.intel.com/content/www/us/en/support/boards-and-kits/desktop-boards.html


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://fernandometha.wordpress.com







ตัวอย่างโครงสร้างหน่วยงานคอมพิวเตอร์ภายในองค์กร

ฝ่ายระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย  สำนักบริการคอมพิวเตอร์  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


ที่มา : https://ocs.ku.ac.th/new/?page_id=284








วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

สัปดาห์ที่ 2 : รู้จักกับ "การออกแบบการสอนแบบ ADDIE Model และ ประเภทของคอมพิวเตอร์" [อา. 5 ม.ค. 60]

- ADDIE Model -
       
          เป็นการออกแบบการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล 5 ขั้นตอน ได้แก่
                       1. Analysis (การวิเคราะห์) เป็นการประเมินข้อมูลที่มีอยู่ เช่น ช่วงอายุของผู้เรียน ลักษณะนิสัยของผู้เรียน เนื้อหาสาระของบทเรียน วัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายของบทเรียน เป็นต้น เพื่อการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                       2. Design (การออกแบบ) เป็นการกำหนดรูปแบบการเรียนการสอนจากข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ เช่น การออกแบบเครื่องมือการวัดประเมินผล รูปแบบการจัดการเรียนการสอน และการเลือกใช้สื่อการเรียนการสอน เป็นต้น โดยวิวิธีการต่าง ๆ ในการออกแบบจะต้องเป็นระบบที่สัมพันธ์กัน
                       3. Development (การพัฒนา) เป็นการนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการออกแบบไปปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาส่วนที่บกพร่องให้สมบูรณ์ เช่น การปรับเปลี่ยนสื่อการเรียนการสอนเมื่อสื่อที่ใช้ไม่ประสบความสำเร็จด้านการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เรียน
                       4. Implementation (การนำไปใช้) ขั้นตอนการสอนจริงโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนหรือสื่อการเรียนการสอนที่วิเคราะห์และออกแบบไว้ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแก่ผู้เรียน ซึ่งต้องเป็นวิธีการหรือสื่อที่ส่งเสริมกระบวนการการเรียนตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
                       5. Evaluation (การประเมินผล) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนหรือสื่อการเรียนการสอนนั้น ๆ ว่ามีประสิทธิภาพพอสำหรับจุดประประสงค์ จุดมุ่งหมายของบทเรียน และคุณลักษณะของผู้เรียนหรือไม่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การออกแบบการสอน addie model







ประเภทของคอมพิวเตอร์
โดยแบ่งตามความสามารถของระบบ

                   จำแนกออกได้เป็น 4 ชนิด โดยพิจารณาจากความสามารถในการเก็บข้อมูลและความเร็วในการประมวลผลเป็นหลัก ดังนี้

                    1. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer) หมายถึง เครื่องประมวล ผล ข้อมูลที่มีความสามารถในการประมวลผลสูงที่สุด โดยทั่วไปสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่องานด้านวิทยาศาสตร์ที่ต้องการการประมวลผลซับซ้อน และต้องการความเร็วสูง เช่น งานวิจัยขีปนาวุธ งาน โครงการอวกาศสหรัฐ (NASA) งานสื่อสารดาวเทียม หรืองานพยากรณ์อากาศ เป็นต้น
                    2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีส่วนความจำและความเร็วน้อยลง สามารถใช้ข้อมูลและคำสั่งของเครื่องรุ่นอื่นในตระกูล (Family) เดียวกันได้ โดยไม่ต้องดัดแปลงแก้ไขใดๆ นอกจากนั้นยังสามารถทำงานในระบบเครือข่าย (Network) ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องปลายทาง (Terminal) จำนวนมากได้ สามารถทำงานได้พร้อมกันหลายงาน (Multi Tasking) และใช้งานได้พร้อมกันหลายคน (Multi User) ปกติเครื่องชนิดนี้นิยมใช้ในธุรกิจขนาดใหญ่ มีราคาตั้งแต่สิบล้านบาทไปจนถึงหลายร้อยล้านบาท ตัวอย่างของเครื่องเมนเฟรมที่ใช้กันแพร่หลายก็คือ คอมพิวเตอร์ของธนาคารที่เชื่อมต่อไปยังตู้ ATM และสาขาของธนาคารทั่วประเทศนั่นเอง
                    3. มินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer) ธุรกิจและหน่วยงานที่มีขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ขนาดเมนเฟรมซึ่งมีราคาแพง ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์จึงพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้มีขนาดเล็กและมีราคาถูกลง เรียกว่า เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ โดยมีลักษณะพิเศษในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ประกอบรอบข้างที่มีความเร็วสูงได้ มีการใช้แผ่นจานแม่เหล็กความจุสูงชนิดแข็ง (Harddisk) ในการเก็บรักษาข้อมูล สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว หน่วยงานและบริษัทที่ใช้คอมพิวเตอร์ขนาดนี้ ได้แก่ กรม กอง มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
                    4. ไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer) หมายถึง เครื่องประมวลผลข้อมูลขนาดเล็ก มีส่วนของหน่วยความจำและความเร็วในการประมวลผลน้อยที่สุด สามารถใช้งานได้ด้วยคนเดียว จึงมักถูกเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer : PC) ปัจจุบันไมโครคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพสูงกว่าในสมัยก่อนมาก อาจเท่ากับหรือมากกว่าเครื่องเมนเฟรมในยุคก่อน นอกจากนั้นยังราคาถูกลงมาก ดังนั้นจึงเป็นที่นิยมใช้มาก ทั้งตามหน่วยงานและบริษัทห้างร้าน ตลอดจนตามโรงเรียน สถานศึกษา และบ้านเรือน
                            เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ จำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
                            4.1. แบบติดตั้งใช้งานอยู่กับที่บนโต๊ะทำงาน (Desktop Computer)
                            4.2. แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable Computer) สามารถพกพาติดตัว อาศัยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จากภายนอก ส่วนใหญ่มักเรียกตามลักษณะของการใช้งานว่า Laptop Computer หรือ Notebook Computer

ที่มา : Super User 
http://innovation.kpru.ac.th/web17/551121727/innovation/index.php/3


รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : http://research.cs.queensu.ca/Parallel/Posters/Posters.html

สัปดาห์ที่ 1 : รู้จักกับ "สื่อ เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา" [อา.29 ม.ค. 60]


รู้จักกับ "สื่อ เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
และเทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา"

          สื่อ (Media) หมายถึง ตัวกลาง (Medium) หรือช่องทาง (Chanel) ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน เช่น ผู้สอนกับผู้เรียน หรือผู้เรียนด้วยกัน โดยสื่อมีบทบาทสำคัญในการส่งข้อมูลข่าวสาร (Message) จากผู้ส่ง (Sender) ไปยังผู้รับ (Receiver) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย

               สื่อ ยังหมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการใช้สื่อ ซึ่งสื่อที่น่าสนใจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้มากยิ่งขึ้น และสามารถช่วยให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ตามความต้องการ และสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา (Technology of Education) อธิบายองค์ประกอบย่อยได้ ดังนี้

       1. การนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนและใช้ในการเรียนการสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน
       2. เป็นวิธีการต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการนำเสนอเนื้อหาสาระ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนหรือทางด้านการศึกษา
       3. เป็นการนำเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ อีกทั้งวัสดุและวิธีการมาผสมผสานกัน เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

              เทคโนโลยีสารสนเทศการศึกษา (Information Technology in Education) หมายถึง วิทยาการที่เกี่ยวข้องทางเทคโนโลยีโดยนำมาช่วยในการประมวลผลข้อมูล (Data Processing) เพื่อให้ได้สารสนเทศ (Information) สำหรับนำไปใช้ในกระบวนการการศึกษา



ตัวอย่าง : การวิเคราะห์ข้อมูล (Data) เพื่อใช้ในการออกแบบการเรียนการสอน